
ช่วงนี้ผมกำลังหลงไหลได้ปลื้มกับการออกกำลังกายในฟิตเนส
ทั้งที่เกือบ 20 ปีแล้วที่ห่างหายไปจากการออกกำลังกาย
เพราะการเรียนที่มากขึ้น พอเรียนจบก็มีเรื่องการงาน สังคม
ทำให้ไม่ได้มีโอกาสออกกำลังกาย
แต่จริงๆ แล้วเป็นเพียงข้ออ้างของคนขี้เกียจอย่างผมมากกว่าครับ^^
จนวันหนึ่งได้คุยกับพี่สาวและถูกถามว่าถ้าหากมีเงินพร้อม
งานการนิ่ง ทุกอย่างโอเคแล้วอยากจะทำอะไร?
ผมก็บอกว่าอยากจะหันมาดูแลตัวเองโดยการออกกำลังกาย
พี่สาวก็บอกว่า ถ้างั้นจะรออะไรอ่ะ เริ่มเลยสิ
ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้เข้าฟิตเนส
คราวนี้หลังจากออกกำลังกายไปได้สักพักหนึ่งก็พบว่า
มันมีแนวคิดในการออกกำลังกายที่คล้ายๆ กับการวางแผนการเงิน
ที่ผมมักจะแนะนำให้เพื่อนๆ ลองมาดูกันว่าผมได้แง่คิดอะไรบ้าง
การออกกำลังกายควรมีแผน การวางแผนการเงินก็เช่นกัน
– ผมออกกำลังกายโดยการซิทอัพ วิ่งสายพาน ยกเวทเล่นแขน
ไหล่ หลัง ขา หน้าท้อง ฯลฯ ทำทุกท่าที่นึกออกในการเล่นแต่ละครั้ง สรุปคือเล่นมั่ว
ผลคือ วันต่อไป ออกกำลังกายใดๆ แทบไม่ได้เพราะทุกส่วนปวดไปหมด
ที่จริงควรจะวางแผนเล่นไปวันละ 1-3ส่วน จะได้พักและสลับเล่นส่วนอื่นในวันต่อไป
– การวางแผนการเงินเช่นกัน ถ้าไม่ได้วางแผนอะไรเลย
ได้เงินเดือนมานึกอะไรออกก็นำไปใช้กับสิ่งนั้นหมด
หรือนำไปออมผิดที่ผิดทาง พอเงินหมดค่อยมานั่งนึกเสียดายที่ไม่ได้วางแผน
ตอนเริ่มต้นเจ็บปวดชวนท้อ
-ครั้งแรกที่เพื่อนมาสอนให้ยกดัมเบล เขาส่งลูกเหล็กหนักมากให้สองลูก
พร้อมบอกท่าการยก พอเราเริ่มยกดูก็ได้ประมาณ 3 ครั้งแบบแขนสั่นสะท้าน
เพื่อนก็บอกว่า อะไรกันแค่นี้เองต้องฝืนนะ
อย่างน้อยต้องยกเป็นเซ็ต 10 ครั้ง ทำ 3 เซ็ต เราก็พยายามต่อจนได้ 10 ครั้ง
น้ำตาแทบเล็ดปวดแขนแบบสุดๆ ในใจก็คิดไปว่าก็นายเล่นทุกวันเลยยกได้จนชิน
แต่เรายกครั้งแรกในรอบ 20 ปีได้แค่นี้ก็ดีแล้ว
แม้ว่าสิ่งที่เพื่อนแนะนำจะให้ผลลัพท์สุดท้ายที่ดีถ้าเราทำได้
– การวางแผนการเงินก็เช่นกัน บางคนที่มาวางแผนการเงิน
มีรายได้ สมมุติว่า 50,000 บาทต่อเดือน
ถ้าเราไม่ได้พิจารณารายจ่ายที่จำเป็นของเขาและ แนะนำว่า
ให้เก็บเดือนละ 5,000 บาท เพื่อเขาจะได้มีเงินออม
จากที่ทำงานมาหลายปีไม่มีเงินออมเลย แต่เขาอาจจะต้องเจ็บปวดเช่นกัน
เพราะอาจจะต้องลดเงินที่ส่งให้แม่ใช้ ลดเงินที่ส่งน้องเรียน หรือ
เพียงแค่ลดเงินส่วนที่ใช้ฟุ่มเฟือยมาออม
ดังนั้นควรจะต้องพิจารณาความจำเป็นของแต่ละคนคู่กันก่อนให้คำแนะนำ
ขื่นชมผลสำเร็จระหว่างทาง
– คนที่ออกกำลังกายแต่ละคนก็มีจุดประสงค์ ต่างกันบางคนอยากสุขภาพดี
บางคนอยากหุ่นดี บางคนอยากมีกล้ามสวย
บางคนอยากเพื่อลดพุงลดไขมันที่ห้อยย้อย ฯลฯ
ก่อนเริ่มเราก็จะมีจุดที่เรายังไม่พอใจต่างๆ นาๆ
เมื่อเราออกกำลังกายไปสักพัก ก็จะเริ่มเห็นว่า ห่วงยางรอบเอวลดลง
หน้าท้องแบนราบ วิ่งได้อึดขึ้น กล้ามแขน อก ท้อง เริ่มมา
คราวนี้ก็เลยอยากจะโชว์หรือแสดงให้คนอื่นเห็นว่า
ออกกำลังกายแล้วได้ผลนะ ดูสิ รูปร่างดูดีขึ้นใช่ไหม
ก็เลยเริ่มถ่ายรูปโพสลงFB Instragram คนที่ออกกำลังกายเหมือนกันดูแล้วก็ชื่นชม
ส่วนคนที่ยังไม่ได้สนใจก็ดูแล้วขำๆ แต่ถ้าดูบ่อยก็อาจจะรำคาญได้
แต่สิ่งนี้ก็เป็นกำลังใจให้คนที่ออกกำลังกายได้รู้สึกว่า
ทำแล้วได้ผล ยิ่งมีคนมาชมยิ่งมีกำลังใจ
– ด้านวางแผนการเงินก็เช่นกัน แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า
แต่การที่ได้คุยกับเพื่อนว่า ได้เริ่มเก็บออมเงินได้แล้วนะ
เรามีประกันคุ้มครองเพื่อความมั่นคงของครอบครัวแล้วนะ
มีการลงทุนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ LTF RMF เพื่อประหยัดภาษี
มีการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนดี มีแผนออมเงินเพื่อใช้ในยามเกษียณแล้วนะ
ต่างๆ เหล่านี้ ก็ล้วนเป็นกำลังใจใน ด้านการวางแผนการเงินเช่นกัน
ถ้าอยากสำเร็จเร็จจะต้องมีตัวช่วย
-หากเราต้องการออกกำลังกายชิลล์ๆ แบบแค่ได้เหงื่อแล้วสดชื่น
อย่างนี้ก็คงไม่ต้องมีตัวช่วยอะไรมาก เพียงแค่แต่งกายให้พร้อมมีเวลาและทำต่อเนื่อง
แต่หากต้องการลดหุ่น สร้างกล้างเนื้ออย่างจริงจัง อย่างนี้ก็จะเริ่มมี ตัวช่วยเข้ามา เช่น
ควรศึกษาหาความรู้จากแหล่งข้อมูลในหนังสือ ในอินเตอร์เน็ท
มีเทรนเนอร์มาช่วยแนะนำ การออกกำลังกายหรือแม้แต่ ช่วยตามให้มาออกกำลังกาย
จะต้องมีการควบคุมอาหาร/เสริมอาหาร อย่างเหมาะสม
ต้องมีตารางการออกกำลังกายอย่างชัดเจน และทำอย่างสม่ำเสมอ ฯลฯ
– ด้านการวางแผนการเงินก็เช่นกัน ที่ผ่านมา
เราอาจจะรู้เรื่องการลงทุนเพียงแค่การฝากเงินไว้ในธนาคาร
ส่วนเรื่องยากๆ เช่น กองทุน ประกัน หุ้น อสังหา ธุรกิจ นั้น
ไม่เคยรู้และไม่มีเวลาศึกษา ถ้าอย่างนี้การมีที่ปรึกษาทางการเงินก็ช่วยได้
เพราะเขาสามารถช่วยให้คำแนะนำเบื้องต้น ให้ความเห็นเปรียบเทียบ
รวมทั้งช่วยดูแลภาพรวมการวางแผนการเงินให้กับผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินได้
ควรจะเริ่มต้นเมื่อไร
คำแนะนำของผมคือ “ควรจะเริ่มวันนี้เลยครับ”
หมายความว่า วันที่คุณได้อ่านได้ฟังข้อมูลที่สร้างแรงบันดาลใจให้ออกกำลังกาย
หรือ ให้วางแผนการเงิน คุณมักจะมีจิตใจฮึกเฮิมและบอกกับตัวเองว่า
“โอ้ว คุณได้พบกับสิ่งนี้ และมันจะเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล”
แต่สุดท้ายการไม่ได้เริ่มในตอนนั้นก็ทำให้คุณลืมมันไปครั้งแล้วครั้งเล่า
-ถ้าคุณคิดว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องดีและจะเริ่มออกกำลังกาย
ผมแนะนำให้คุณไปเปลี่ยนชุดและออกกำลังกาย 30 นาทีเดี๋ยวนี้เลย
และคุณจะเข้าใจได้ทันที
-ถ้าคุณอยากวางแผนการเงิน คุณเตรียมเอกสารไปเปิดบัญชีเพิ่มอีก 1 บัญชี
และเอาเงิน 5-10% ของเงินเดือนคุณ (คิดซะว่า เป็นเงินที่ได้จากการ
งดกินอาหารตามห้างสัก 2 มื้อ งดกาแฟสัก 1สัปดาห์) ใส่เข้าไปในบัญชีเริ่มต้นนี้ทันที
พอวันนี้ของเดือนหน้า ก็ใส่เงินไปอีกจำนวนเท่ากันทำไปทุกเดือน ครบปีคุณก็จะเข้าใจเอง
ขอให้สุขสมหวังมีสุขภาพกายและสุขภาพการเงินที่ดีนะครับ ^_^